วันที่ 4 ตุลาคม 2560 เวลา 9.00 น. ณ รัฐสภา พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ได้เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 17/2560 โดยมีนายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรมเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้แทนปลัดกระทรวงยุติธรรม มีประเด็นการประชุม ดังนี้
1. ฝ่ายเลขานุการฯ ได้นำเสนอเรื่องเพื่อทราบ
1.1 สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการจัดเวที 4 ภาค (คณะอนุกรรมการด้านการรับฟังความคิดเห็น) ได้นำเสนอผลความคืบหน้าในการดำเนินงานจากการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ ประชาชนทั่วไป ตำรวจ สื่อมวลชน และบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม โดยคณะอนุกรรมการฯ จะสรุปผลที่ได้เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคณะอนุกรรมการด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจ คณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคล และคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา นำเรียนที่ประชุมคณะกรรมการฯ ต่อไป
1.2 สรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา
ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้งานนิติวิทยาศาสตร์ต้องมีหน่วยงานมากกว่า 1 หน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกนั้น จากการพิจารณาพบว่าในพระราชบัญญัติการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้มีบทบัญญัติในลักษณะนี้อยู่แล้วในมาตรา 5 (4) ซึ่งการจะให้ได้ข้อสรุปในประเด็นนี้จึงได้มีการเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้แก่ สพธอ. สพฐ. สถาบันนิติเวช และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาให้ข้อมูลเรื่องบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน ประกอบกับข้อเสนอเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ต่อไป
1.3 สรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจ
นำเสนอความคืบหน้าในการดำเนินงานว่าได้มีการพิจารณาเรื่องการถ่ายโอนภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว และจะได้ส่งต่อให้คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายฯ ไปพิจารณาว่าจะออกกฎหมาย เกี่ยวกับอำนาจการสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ดียังคงมีงานเรื่องอื่นๆ ต้องดำเนินการต่อ เช่น ประเด็นความร่วมมือระหว่างชุมชนและท้องถิ่น การเพิ่มประสิทธิภาพสถานีตำรวจ เป็นต้น
2. ประเด็นสำคัญในการพิจารณาของคณะกรรมการ คือ การสรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคล
มีข้อเสนอในประเด็นเรื่อง ก.ต.ช. ได้แก่ เจตนารมณ์ในการตั้ง ก.ต.ช. บทบาทและหน้าที่ของ ก.ต.ช. ผลกระทบหากมีการยุบเลิก ก.ต.ช. ข้อเสียของการยกเลิก ก.ต.ช. องค์ประกอบของ ก.ต.ช. และได้มีการสรุปมติของคณะอนุกรรมการฯ ว่าให้คง ก.ต.ช. ไว้ดังเดิม แต่ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบและบทบาทหน้าที่