วันนี้ (2 ต.ค. 60) เวลา 13.30 น. ผอ.สกธ. ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาสถานการณ์ปัญหาการขายฝากที่ไม่เป็นธรรม ครั้งที่ 2/2560 ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 1 ชั้น 9 ยธ. โดยมี ผอ.สวพ. ในฐานะเป็นผู้แทน สกธ. เข้าร่วมการประชุม และมี สกม.สป.ยธ. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ
ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาสภาพปัญหา สถิติ และแนวทางแก้ไขปัญหาการขายฝากตาม ปพพ. ได้แก่
1. ปริมาณงานและเงินรายได้จากการจดทะเบียนขายฝาก
2. สถิติการแก้ไขเพิกถอนรายการจดทะเบียนขายฝาก
3. ข้อมูลสถิติคดีวางทรัพย์
4. ข้อมูลสถิติเรื่องร้องเรียนของศูนย์ลูกหนี้
5. ข้อมูลสถิติ (ภาพรวมการสำรวจเกษตรกรตามโครงการสำรวจข้อมูลเกษตรกรในพื้นที่ 36 พื้นที่ 4 ภาค) และสรุปสาระสำคัญ ร่าง พ.ร.บ. ธนาคารที่ดิน พ.ศ. ….
ประเด็นหารือเพิ่มเติม
-ควรนำข้อมูลของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (อชก.) ของ กษ. และ กองทุนฟื้นฟูมาพิจารณาด้วย เนื่องจากมีเรื่องกรอบการเก็บข้อมูลเชิงสถิติค่อนข้างกว้างและมีระยะเวลาการเก็บข้อมูลย้อนหลังหลายปีเพื่อจะได้เห็นข้อมูลที่ละเอียดขึ้น
-วิเคราะห์ข้อมูลเพียงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรเท่านั้น เพื่อที่จะ scope ปัญหาของเกษตรกรที่เกิดจากกฎหมายขายฝากโดยตรง ทั้งควรต้องพิจารณาข้อมูลส่วนที่ทับซ้อนกับกลุ่มอาชีพอื่นเพื่อที่จะสกัดสถิติเฉพาะกลุ่มเกษตรกรเท่านั้น
-สำรวจสถิติการจดทะเบียนขายฝากจากกรมที่ดิน หากเป็นไปได้ควรแยกเพียงเฉพาะส่วนที่เกิดจากการขายฝาก โดยอาจเริ่มต้นที่ จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม ว่าการจดทะเบียนขายฝากนั้นมีการไถ่ถอนหรือไม่ ซึ่งสถิตินี้จะมีประเด็นการบังคับคดี การฟ้องขับไล่รวมอยู่ด้วย
-การยกเลิกกฎหมายขายฝากอาจมีผลให้เกษตรกรขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียน จึงควรต้องมีกลไกของรัฐมารองรับแหล่งเงินทุนให้เกษตรกรเสียก่อน เช่น ธกส. ธ.ออมสิน รวมถึงกลไกอื่นตามกฎหมายที่ยังมีอยู่เช่น การจำนอง หรือขายขาดด้วย
-ที่ประชุมได้มีมติเห็นพ้องว่ากลุ่มเกษตรกรได้รับผลกระทบจากกฎหมายขายฝากและการเข้าทำสัญญาขายฝากเกิดจากสภาพบีบบังคับในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน อย่างไรก็ดี การขายฝากมีกลุ่มอาชีพอื่นที่ดำเนินการนอกจากเกษตรกรและได้รับปัญหาในบางมุมเช่นกัน ดังนั้น จึงมอบหมายฝ่ายเลขาฯ ดำเนินการ ดังนี้
1 วิเคราะห์ข้อมูลการยกเลิก/แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายขายฝากควรดำเนินการหรือไม่นั้น ควรศึกษางานวิจัย เปิดรับฟังความเห็นเชิงกว้าง จัดการประชุม workshop ทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบเชิงนโยบาย/กลไกเยียวยาว่าควรยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติม โดยให้พิจารณาทั้งส่วนภาครัฐและภาคเอกชนว่ามีประโยชน์/ผลกระทบมากน้อยเพียงใด
2 มีหนังสือสอบถามข้อมูลสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ภาคเอกชนอื่นๆ นักวิชาการ รวมถึงประสานข้อมูลสถิติเรื่องการจดทะเบียน/การไถ่ถอนจากกรมที่ดินโดยอาจเก็บข้อมูลในกลุ่มจังหวัดที่มีสถิติการร้องเรียนแบ่งเป็นรายภาค และจัดทำข้อมูลลักษณะ mapping & matching เป็นตารางอัพเดตข้อมูลที่ตรงกัน