วันที่ 8 มิถุนายน 2561 กนป.สัมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนกรอบแนวทางการป้องกันอาชญากรรมและแนวทางการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) เป็นวันที่ 2 ของการสัมนา โดยมีการบรรยาย การเสวนา และการแลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อพัฒนางานด้านการป้องกันอาชญากรรม แบ่งเป็น 4 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 การนำเสนอนวัตกรรมในการป้องกันอาชญากรรม “ศูนย์ข้อมูลอาวุธปืนและการตรวจเปรียบเทียบกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนด้วยระบบอัตโนมัติ” โดย พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำเสนอระบบการจัดเก็บหลักฐานข้อมูลอาวุธปืนของศูนย์ข้อมูลอาวุธปืน ประกอบด้วย การจัดเก็บข้อมูลและบันทึกข้อมูลวัตถุพยานที่ได้จากที่เกิดเหตุ การยิงปืนเพื่อเก็บลูกกระสุนปืน และปลอกกระสุน และการเก็บรักษาไว้เพื่อการตรวจสอบเปรียบเทียบในภายหลัง และยังมีการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อการตรวจพิสูจน์ที่มีประสิทธิภาพ
ช่วงที่ 2 การนำเสนอ ผลการศึกษาโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดนำร่อง โดย นางสาวพรนภา หล้าสอด ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล พบว่าการแก้ปัญหาอาชญากรรมควรมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในแต่ละด้าน ทั้งด้านสภาพแวดล้อม ด้านการเฝ้าระวัง และเจ้าหน้าที่ในการเตือนภัย และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย หรือแนวทางในการดำเนินงาน
ช่วงที่ 3 การเสวนาในหัวข้อบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันอาชญากรรม : ตัวอย่างแนวทางการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ในระดับชุมชน ซึ่งต่อเนื่องจากวันที่ 7 มิถุนายน 2561
นายวิรัตน์ บุญเรืองยา รองนายกเทศมนตรีตำบลลวงเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยากร) นำเสนอแนวทางการดำเนินงานด้านการป้องกันอาชญากรรมโดยการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิด และลดโอกาสการตกเป็นเหยื่อ โดยร่วมกับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ในการพัฒนาให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มีความเข้มแข็ง และสร้างเกราะป้องกันโดยการให้ความรู้กับประชาชนในการดูแลตนเองและผู้อื่น จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ
นายยุทธ วงษ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น (วิทยากร) นำเสนอด้านการฟื้นฟูเยียวยาและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนชายขอบในสังคมเมือง โดยกระบวนการดึงเด็กและเยาวชนออกจากพื้นที่มืดในสังคม และเยียวยาจิตใจ ส่งเสริมให้มีชีวิตใหม่ ให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสม และสร้างอาชีพให้สามารถพึ่งตนเองได้
ช่วงที่ 4 การแลกเปลี่ยนเพื่อการพัฒนางานด้านการป้องกันอาชญากรรม โดยผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดใน 2 ประเด็น คือ
1. การดำเนินงานเพื่อการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันอาชญากรรม ต้องศึกษาสภาพปัญหาในพื้นที่ให้เข้าใจ หัวใจหลักในการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จคือการเข้าถึงประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วม และกำหนดทิศทางรวมทั้งตัวชี้วัดในการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้เห็นผลเป้นรูปธรรมและนำเสนอเป้นแบบอย่างให้พื้นที่อื่นในการดำเนินงานเพื่อขยายผล
2. เวทีเสวนาเพื่อการแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการป้องกันอาชญากรรม เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญในการพัฒนางานด้านการป้องกันอาชญากรรมในแต่ละพื้นที่ ทำให้ได้แนวคิดและกลยุทธในการดำเนินงาน การจัดงานควรประสานหน่วยงานให้เข้าร่วมอย่างครอบคลุมและมีเวลาให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ และควรจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นพัฒนาการด้านการป้องกันอาชญากรรมในภาพรวมที่มีความชัดเจน