วันที่ 3 ก.ย. 2561 เวลา 14.00 น. ผอ.สกธ. ได้มอบหมายให้ ผอ.กนป. เข้าร่วมประชุมคณะทำงานจัดทำรายงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 3/2561 ณ ห้องประชุม 3 กระทรวงการต่างประเทศ
สาระสำคัญของการประชุม
ที่ประชุมรับทราบผลการจัดทำรายงาน Voluntary National Review (VNR) ประจำปี 2561 ภายใต้หัวข้อ “localizing SDG and multi stakeholders engagement “ ซึ่งของเป้าหมายที่ 16 นำเสนอการขจัดความรุนแรงต่อเด็ก ผู้หญิง และบุคคลในครอบครัว แบบประสานสหวิชาชีพ ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน และการผนึกกำลังของทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต (zero tolerance)
ที่ประชุมรับทราบผลการเข้าร่วมการประชุม High-Level Political Forum on sustainable development (HLPF) ระหว่างวันที่ 9-19 กรกฎาคม 2561 ของคณะผู้แทนไทย ซึ่งปีนี้เป็นการทบทวนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เชิงลึก ของเป้าหมายที่ 6 เรื่องน้ำสะอาด เป้าหมายที่ 7 เรื่องพลังงานสะอาด เป้าหมายที่ 11 เรื่องการสร้างเมืองที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 12 เรื่องการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 15 เรื่องระบบนิเวศบนบก และเป้าหมายที่ 17 เรื่องความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา ภายใต้หัวข้อหลัก “Transformation towards sustainable and resilient societies” โดยในปีนี้ มีการพูดถึงประเด็นการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเทคโนโลยี (STI) ในการสนับสนุนให้บรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน กันอย่างกว้างขวาง และในการประชุมครั้งนี้ มีประเทศที่เสนอตัวนำเสนอรายงาน VNR ทั้งหมด 47 ประเทศ อาทิ อัลบาเนีย บาฮามัส แคนาดา คิริบาติ สิงคโปร์ และลาว เป็นต้น ซึ่งประเทศสิงคโปร์ นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการจัดนิทรรศการด้านหน้าห้องประชุมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของน้ำสะอาด พร้อมขายเทคโนโลยีการทำน้ำเสียให้กลับมาเป็นน้ำสะอาดที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ที่สนใจด้วย หรือประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีการจัดเกมส์ เป็น gimmick ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ร่วมงานได้ดีเลยทีเดียว เป็นต้น
ที่ประชุมรับทราบบทเรียนการจัดทำรายงาน VNR ว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการติดตามการดำเนินการของประเทศอีกทางหนึ่ง และรับทราบการประชุม HLPF ของหน่วยงานต่างๆ อาทิ
– กระทรวงพลังงาน ได้เป็น panelist ในช่วงpanel ของเป้าหมายที่ 7 โดยได้พูดถึงการเข้าถึงด้านพลังงาน ทุกพื้นที่ ซึ่งคิดเป็น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนบางพื้นที่ ที่พัฒนาสายส่งไม่ได้ ก็สนับสนุนให้ใช้ solar cell ซึ่งถึงว่าเป็น best practice ของประเทศไทย ที่นานาชาติสามารถมาเรียนรู้ได้
– กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าว intervention ในช่วงการทบทวนเชิงลึกเป้าหมายที่ 11 โดยนำเสนอกลไกการทำงานของคณะกรรมการที่อยู่อาศัยแห่งชาติ รวมถึง การจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยฯ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้มีที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
– กระทรวงมหาดไทย ได้จัด side event การลดความเสี่ยงเรื่องภัยพิบัติ และกล่าวขอบคุณทุกความช่วยเหลือจากนานาชาติในการช่วยเหลือทีมหมูป่าให้ออกจากถ้ำ ซึ่งได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง (เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเดียวกันพอดี) เป็นต้น
กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งแนวทางการดำเนินงานของคณะทำงานในช่วงต่อไป โดยในการประชุม HLPF ปีค.ศ. 2019 จะมีขึ้นในช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งมีเป้าหมายหลักที่จะถูกหยิบยกมาทบทวนเชิงลึก ได้แก่ เป้าหมายที่ 4 เรื่องการศึกษาที่ดี เป้าหมายที่ 8 เรื่องการจ้างงาน เป้าหมายที่ 10 เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ เป้าหมายที่ 13 เรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เป้าหมายที่ 16 เรื่องสังคงสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก และเป้าหมายที่ 17 เรื่องความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา ภายใต้หัวข้อหลัก “Empowering people and ensuring inclusiveness and equality” มีประเทศที่เสนอตัวเข้านำเสนอ VNR แล้ว 43 ประเทศ ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ จึงขอเสนอให้ กรมองค์การระหว่างประเทศ เป็น panelist ในเรื่อง SEP for SDGs หรือ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เป็น panelist ในเรื่อง STI รวมถึงเสนอให้ กระทรวงยุติธรรมจัด side event ในประเด็นที่น่าสนใจและอยากจะทำเสนอ และเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆสามารถเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ กลับไปปรึกษาหารือกันก่อน แล้วจะประชุมกันใหม่ในเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำรายงาน VNR ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงยุติธรรมที่ได้จัดการประชุมทางวิชาการว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 16 ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และชื่นชมสื่อของเป้าหมายที่ 16 ไม่ว่าจะเป็นวิดีทัศน์ ชุดความรู้ หรือนิทรรศการ ว่ามีเนื้อหาสาระที่ดี ทันสมัย พร้อมทั้ง บอกว่าหากกระทรวงการต่างประเทศจะจัดงานเกี่ยวกับ SDGs จะขอให้นิทรรศการไปจัดแสดงด้วย และเสนอให้หน่วยงานต่างๆ เอาเป้าหมายที่ 16 เป็นแบบอย่างได้