เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้มอบหมายให้ นายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม พร้อมด้วยนางขัตติยา รัตนดิลก ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรม เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ และการดำเนินการเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. …. ครั้งที่ 6/2565 โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน และนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงาน อาทิ กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการปกครอง เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติฯ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันอภิปรายและหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเชื่อมโยงขั้นตอนการดำเนินงานตามกฎหมายให้ชัดเจน เป็นรูปธรรม โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) การส่งตัวรับตัวในกรณีการใช้มาตรการคุมขังฉุกเฉิน
2) กรณีที่ไม่ได้กำหนดให้มีการจัดทำกฎหมายลำดับรอง อาจมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติงานต่อไป
3) เรื่อง การใช้มาตรการทางการแพทย์ เนื่องจากกฎกระทรวงฯ ที่ออกตามความในมาตรา 19 และมาตรา 21 ของพระราชบัญญัติฯ ที่กรมราชทัณฑ์จะเสนอนั้น ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำก่อน แต่คณะกรรมการดังกล่าว จะเริ่มมีอำนาจหน้าที่ต่อเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ กรณีเช่นนี้ อาจทำให้มีช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมายที่อาจไม่สามารถสั่งใช้และบังคับตามมาตรการทางการแพทย์ได้ทัน ภายในวันที่ 23 มกราคม 2566 แต่มาตรการอื่นๆตามกฎหมาย ไม่ได้รับผลกระทบ
4) เรื่อง การปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่เข้าข่ายตามมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติฯ ซึ่งระหว่างวันที่ 23-31 มกราคม 2566 มีจำนวนผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัว (พ้นโทษ) จำนวน 26 คน จะใช้มาตรการหรือกลไกใด หากไม่สามารถเสนอใช้มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ ได้ทันตามกำหนด อาจใช้กลไกหรือมาตรการที่มีอยู่เดิม อาทิ การเฝ้าระวังของศูนย์ JSOC กลไกติดตามของตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง ไปพลางก่อนได้หรือไม่ หรือจะมีแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอย่างไร เพื่อเร่งรัดการสั่งใช้มาตรการเฝ้าระวังให้ได้ทันท่วงที ซึ่งประเด็นนี้ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย
5) การจัดทำข้อมูล บัญชีรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามมาตรา 3 และจะเสนอให้ใช้มาตรการเฝ้าระวัง (ข้อมูลผู้ต้องขัง เปรียบเทียบฐานความผิด และเงื่อนเฝ้าระวัง รวมถึงระยะเวลาที่จะใช้บังคับ)
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมจะนำข้อมูลที่รับจากการประชุมในครั้งนี้ รายงานความคืบหน้าต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ อีก 1 ครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าหรือหารือเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจน ก่อนจะส่งต่อภารกิจให้คณะกรรมการตามกฎหมายต่อไป