.
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบในประเด็น 1) การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และการดำเนินการโครงการไตรมาสที่ 3 โดยสำนักงานกิจการยุติธรรมได้รับจัดสรรงบประมาณ 104.60 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 54.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 52.30 ด้านงบประจำ 83.846 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 46.845 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.87 ด้านงบลงทุน 20.757ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 15.011 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.32 ทั้งนี้ ให้แต่ละหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงาน 2) ข้อสั่งการรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายวิษณุ เครืองาม) จำนวน 7 เรื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่
– มอบหมายทุกส่วนราชการจัดเตรียมข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และการดำเนินงานที่ประสงค์จะให้มีการผลักดันต่อไป เพื่อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่
– ให้มีการจัดสรรอัตรากำลังให้มีความเหมาะสมกับหน่วยงานที่ขาดแคลนบุคลากร
– สร้างการมีส่วนร่วมในหน่วยงาน พันธมิตร และเครือข่ายต่างๆ ทั้งในและระหว่างประเทศ
– เร่งผลักดันร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ เช่น โนตารีปับลิก ชะลอฟ้อง และประวัติอาชญากรรม พ.ศ. …. ให้แล้วเสร็จเพื่อเตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่
– ผลักดันให้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) เพิ่มขึ้น
– ฝึกอบรมเยาวชนให้เข้าใจกฎหมายและงานยุติธรรม หลักนิติธรรม/อนุญาโตตุลาการ
– เร่งรัดการดำเนินการ Program Management Unit (PMU) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรายงานความคืบหน้าทุก 15 วัน
.
นอกจากนี้ได้พิจารณาการติดตามงานที่มอบหมายจากผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม จำนวน 30 เรื่อง ทั้งนี้ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 24 เรื่อง และมีเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ 6 เรื่อง ได้แก่
– ร่างพระราชบัญญัติชะลอการฟ้อง พ.ศ. ….
– แนวทางการใช้สถานที่อื่นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตามมาตรา 89/1 มาตรา 89/2 และมาตรา 246
– การศึกษาเรื่อง การดำเนินการเรือนจำเอกชน (Private Prison)
– การหารือเงินดอกเบี้ยกรมบังคับคดี (รายงานการตรวจสอบเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในคดีฟ้องตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์)
– การเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนากระบวนการยุติธรรมผ่านกลไก กพยช. และ กพยจ. ในระดับพื้นที่
– พ.ร.บ. กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565
.
อีกทั้ง ที่ประชุมยังได้มีการรายงานความคืบหน้าการจัดเตรียมประชุมทางวิชาการ ระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 20 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2566