ผอ.สวพ. เข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “Active Shooter : บทเรียนที่มีต่อกฎหมาย เทคโนโลยี และความปลอดภัยของสาธารณชน”

Picforweb

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้มอบหมายให้ นางขัตติยา รัตนดิลก ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรม เข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “Active Shooter : บทเรียนที่มีต่อกฎหมาย เทคโนโลยี และความปลอดภัยของสาธารณชน” ณ ห้องประชุม ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต โดยมีวิทยากร ได้แก่ ศาสตราจารย์ ณรงค์ ใจหาญ ผู้อำนวยการโครงการปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมีประเด็นเสวนา ดังนี้ การกระทำ Active shooter หมายถึงผู้ก่อเหตุที่กราดยิ่งผู้คนจำนวนมากโดยไม่เลือกกลุ่มเป้าหมาย และไม่จำกัดขอบเขต โดยไม่ได้จำเป็นแค่เฉพาะ การกราดยิง แต่อาจจะเป็นการใช้มีดหรืออาวุธอย่างอื่นทำร้ายผู้คนที่พบเจอในช่วงเวลาเกิดเหตุ หรือบุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป ร่วมกันฆ่าผู้อื่น หรือพยายามฆ่าผู้อื่นในพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่น โดยไม่ใช่การป้องกันตนเองหรือการยิงสกัดอาชญากร ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ปัจจัยที่ก่อให้เกิด Active shooter ในด้านวิชาการ ผู้ก่อเหตุมีความผิดปกติทางจิต มีความเปราะบางในอารมณ์ มีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด หรือต้องการเรียกร้องความสนใจ โดยมีปัจจัยภายนอกจากแรงกระตุ้นทางสังคม องค์กร สภาพที่ทำงาน สถานศึกษา หรือครอบครัว และความคุ้นเคยกับการใช้อาวุธต่าง ๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยร่วม เช่น การถูกเอาเปรียบ การไม่ได้รับความเป็นธรรม การถูก Bully หรือความหวาดระแวง เป็นต้น 2. สิทธิของผู้เสียหายจากเหตุการณ์ Active shooter ในประเทศไทย ผู้เสียหายที่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ Active shooter อาจถึงแก่ชีวิตหรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งทางร่างกายและสภาพจิตใจ จะต้องได้รับการชดเชยค่าเสียหาย หากผู้ก่อเหตุยังมีชีวิตต้องรับความผิดตามหลักประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วยเช่นกัน โดยกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ 3. การเยียวยาความเสียหายจาก Active shooter ให้แก่ผู้เสียหายในสหรัฐอเมริกา (Best Practice) 4. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิด Active shooter โดยหลักสากล หรือหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยเมื่อมีเหตุกราดยิง หรือเหตุก่อการร้ายในห้าง อาคารเรียน หรือสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงที่สาธารณะ มีหลักปฏิบัติ 3 วิธี คือ หนี ซ่อน สู้ ทั้งนี้ ควรมีการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง เข้มงวดทุกข้อหาอย่างรวดเร็วเป็นธรรม และการพัฒนากฎหมายควรคำนึงถึงหลักของพฤติกรรมของการก่อเหตุ และการสูญเสียของผู้เสียหายมากกว่าการกำหนดอายุของผู้กระทำความผิด รวมถึงสื่อมวลชน และประชาชน เมื่อเกิด Active shooter สื่อต้องรายงานด้วยความระมัดระวัง และผู้ประสบเหตุห้าม Live Social เนื่องจากจะทำให้เกิดอันตรายได้

35 Views