วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม นายนิทัศน์ แสงวัฒนะ ผู้อำนวยการกองนโยบายและประสานแผนกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่สำนักงานกิจการยุติธรรม เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการ ชุดที่ 3 ด้านการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมาย ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พลเอก กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ เป็นประธานการประชุม ด้วยวิธีการประชุมทางไกล (Video Conference) ผ่านระบบ Cisco Webex Meeting
พลตำรวจตรี วิทยา เย็นจิตต์ ผู้บังคับการกองคดีอาญา ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลายมิติ ได้แก่ งานสืบสวน งานสอบสวน งานป้องกันและปราบปราม งานจราจร และความมั่นคง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจรัฐ ดังนั้นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และการปฏิบัติงานจะต้องยึดปฏิบัติตามหลักกฎหมายเป็นสำคัญ นอกจากนี้ตำรวจยังต้องปฏิบัติตามระเบียบต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัดด้วย ซึ่งได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมและรองรับกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น พระราชบัญญัติกําหนดระยะเวลาดําเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกระเบียบภายในเพื่อกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานของตำรวจให้รวดเร็วในการบริการประชาชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนและเสริมสร้างหลักนิติธรรมในประเด็นความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมาย โดยพิจารณาเฉพาะปัจจัยที่มีค่าคะแนนสีแดง คือ ปัจจัยที่ต้องดำเนินการทันที ได้แก่ ปัจจัยหลักที่ 6 การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ปัจจัยย่อยที่ 6.4 กระบวนการของฝ่ายบริหารยึดหลักเคารพสิทธิของประชาชนโดยการใช้อำนาจต้องมีกฎหมายรองรับและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด (0.27 คะแนน) และปัจจัยสีเหลือง คือ ปัจจัยที่ควรปรับปรุง ได้แก่ ปัจจัยย่อยที่ 6.1 การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล (0.50 คะแนน) และปัจจัยย่อยที่ 6.3 กระบวนการของฝ่ายบริหารไม่ล่าช้าเกินสมควร (0.44 คะแนน) นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ มีหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามการดำเนินงานในด้านที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยย่อยดังกล่าว และรวบรวมข้อมูลเพื่อคณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ในการประชุมครั้งต่อไป