สกธ. เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร

Picforweb 01

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร โดยมี พลตำรวจโท อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมประชุม ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ที่ประชุมรับทราบมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 โดยเป็นการรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ

นอกจากนี้ มีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาทะเบียนประวัติอาชญากรของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ

1. การแก้ไขปัญหาในระยะสั้นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับกรอบระยะเวลาการดำเนินงานที่ชัดเจนว่าในแต่ละขั้นตอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาเท่าไหร่ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่าขณะนี้ได้จัดทำคำสั่งกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการด้านทะเบียนประวัติแต่ละขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาลงนาม

2. การแก้ไขปัญหาระยะกลางให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติหารือแนวทางการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมหาแนวทางในการบูรณาการฐานข้อมูล โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่าปัจจุบันได้มีการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีการจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน แต่ยังคงมีปัญหาในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล และความสมบูรณ์ของข้อมูล รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในระบบระหว่างหน่วยงาน ซึ่งอัยการรับไปดำเนินการจัดทำระบบให้สมบูรณ์

3. การแก้ไขปัญหาระยะยาวให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการทบทวนปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่าตำรวจมีความพร้อมที่จะเป็นหน่วยงานในการดำเนินการด้านทะเบียนประวัติอาชญากรในทุกด้าน ทั้งด้านบุคลากร งบประมาณ และเทคโนโลยี ดังนั้น หากมีการพัฒนากฎหมายด้านทะเบียนประวัติอาชญากรเป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ จะทำให้มีการบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงถึงกันและทันสมัย โดยตำรวจมีความพร้อมที่จะดำเนินการต่อไปภายใต้บุคลากรและทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม

ทั้งนี้ หลายหน่วยงานเห็นว่าควรให้ตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการเรื่องนี้ แต่จะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด อีกทั้งควรพิจารณาประเด็นเรื่องการลบประวัติอาชญากรรมเพิ่มเติมด้วย

37 Views