วันอังคารที่ 8 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เช่น สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วม ณ อาคารรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจำนวน 4 ร่าง ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. นายวิชัย สุดสวาสดิ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. นายปรีดา บุญเพลิง กับคณะ เป็นผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. นายชัยธวัช ตุลาธน กับคณะ เป็นผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
(1) กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีการยกร่างกฎหมายในลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม และเห็นว่าปัจจุบันมีพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อยู่แล้ว การมีร่างพระราชบัญญัติ 4 ฉบับ ข้างต้น อาจมีความซ้ำซ้อนและก่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการทางกฎหมาย นอกจากนี้ การยกเว้นให้การกระทำความผิดในบางลักษณะได้รับการนิรโทษกรรม ควรพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐ และความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม
(2) สำนักงานศาลยุติธรรม เห็นด้วยในหลักการของร่างพระราชบัญญัติทั้ง 4 ฉบับ แต่มีข้อสังเกต คือ กรณีความผิดบางฐานที่มีโทษรุนแรง เช่น กบฏ หรือความผิดที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ควรต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบที่จะไม่ให้มีการนิรโทษกรรม ควรให้ยังคงมีการใช้สิทธิทางแพ่งได้ และการตั้งผู้พิพากษาเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการกลั่นกรองคดี อาจส่งผลต่อความเป็นกลาง
(3) สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ชี้แจงว่า การมีคณะกรรมการกลั่นกรองคดี จะเป็นปัญหา เพราะปัจจุบันมีกระบวนการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอยู่แล้ว ซึ่งจะแยกอย่างไรว่าเป็นคดีทางการเมืองโดยแท้หรือไม่ อาจเกิดปัญหาข้อโต้แย้งได้ อันจะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในภาพรวม