วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม พร้อมด้วยนายนิทัศน์ แสงวัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ให้การต้อนรับ Ms. Caroline Charpentier ผู้ช่วยทูตฝ่ายศาลยุติธรรม กำกับดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกไกล ประจำประเทศไทย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น ณ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องรับรอง สำนักงานกิจการยุติธรรม
ในการนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรมได้หารือเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือระหว่างสำนักงานกิจการยุติธรรมและหน่วยงานของประเทศฝรั่งเศส โดยมีประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาวิชาชีพโนตารีปับลิกในประเทศไทย และได้กล่าวชื่นชมขอบคุณที่ทางฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือการศึกษาดูงานของคณะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานกิจการยุติธรรมได้ผลักดันขับเคลื่อนดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการศึกษารูปแบบองค์กร ประเด็นปัญหาอุปสรรค การพัฒนาศักยภาพบุคลากร ตลอดจนการบริหารจัดการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับขององค์ที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในเรื่องของการรับรองเอกสารอันจะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกรรมตามมาตรฐานสากล และเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และประสงค์ขอให้ทางฝรั่งเศสสนับสนุนประเทศไทยในประเด็นดังกล่าวต่อไปโดยเฉพาะการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในสมาพันธ์โนตารีระหว่างประเทศ (International Union of Notaries : UINL) ในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้เรียนเชิญ Ms. Caroline Charpentier เข้าร่วมการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 22 (The 22nd National Symposium on Justice Administration) ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นี้ ในหัวข้อการพัฒนาวิชาชีพโนตารีปับลิก และ Ms. Caroline Charpentier ได้เรียนเชิญสำนักงานกิจการยุติธรรมร่วมกิจกรรมในการประชุม “Franco-Thai Week on Law and Justice” ซึ่งสถานทูตฝรั่งเศสได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนประเด็นกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมระหว่างไทย – ฝรั่งเศส ในช่วงเดือนตุลาคม 2568 รวมทั้งยังได้แนะนำให้มีการจัดหารือร่วมกันระหว่าง สำนักงานกิจการยุติธรรม สภาทนายความ สถานทูตฝรั่งเศส และสถานทูตเยอรมัน เกี่ยวกับประเด็นข้อดีของการมีโนตารีปับลิกในประเทศไทย