มาตรา 77
มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 4 เมษายน 2560
แนวทางการจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบทบัญญัติ มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยก.

1. แนวทางการจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบทบัญญัติมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ สลค. ร่วมกับ สคก. จัดทำขึ้น เพื่อให้หน่วยงาน ของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไป
2. หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist) ที่ สลค. ร่วมกับ สคก. ปรับปรุงขึ้น โดยให้เป็นหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็น ในการตรา พ.ร.บ. ท้ายระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อ คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไป
หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist)

1.วัตถุประสงค์และเป้าหมายของภารกิจ
- แก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องใด
- ความจำเป็นที่ต้องทำภารกิจ
- ทางเลือกให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่ละทางเลือกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
- มาตรการที่บรรลุวัตถุประสงค์ของภารกิจ
- ภารกิจนั้นจะแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องนั้นได้เพียงใด
- ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ ตัวชี้วัดความสัมฤทธิ์ทางกฎหมายมีอย่างไร
- การทำภารกิจสอดคล้องกับพันธกรณีและความผูกพันที่ประเทศไทยมีต่อรัฐต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ / การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นผลดีหรือก่อให้เกิดภาระแก่ประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร
2.ผู้ทำภารกิจ
- คำนึงประสิทธิภาพ ต้นทุน ความคล่องตัว / ภารกิจนี้ควรทำร่วมกับเอกชนหรือไม่
- คำนึงถึงประสิทธิภาพและประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประชาชน ควรทำภารกิจร่วมกับหน่วยงานอื่นหรือไม่ เพราะเหตุใด
- ภารกิจดังกล่าว หากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำ จะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่าหรือไม่
3.ความจำเป็นในการตรากฎหมาย
3.1 การจัดทำภารกิจนั้นมีความสอดคล้องกับเรื่องใด อย่างไร
- หน้าที่หลักของหน่วยงานรัฐ(ตามภารกิจพื้นฐาน Function)
- หน้าที่ของรัฐและแนวนโยบายแห่งรัฐ
- ยุทธศาสตร์ชาติ
- แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- แนวทางการปฎิรูปประเทศ
3.2 การทำภารกิจนั้นสามารถใช้มาตรการทางบริหารโดยไม่ต้องออกกฎหมายได้หรือไม่ ถ้าใช้มาตรการทางบริหารจะมีอุปสรรคอย่างไร
3.3 การทำภารกิจนั้น ทำไมจำเป็นต้องตรากฎหมาย
3.4 การใช้บังคับกฎหมายและระยะเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย
(ก) การใช้บังคับกฎหมาย
- ต้องใช้บังคับพร้อมกันทุกท้องที่ทั่วประเทศ
- ทยอยใช้บังคับเป็นท้องที่ๆไป / ใช้บังคับเพียงบางท้องที่
(ข) ระยะเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย
- ใช้บังคับทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- มีการทอดระยะเวลาในการบังคับใช้เป็นเวลาเท่าใด
- ควรกำหนดระยะเวลาการสิ้นสุดไว้ด้วยหรือไม่
3.5 เหตุที่ไม่สมควรตราเป็นกฎหมายในลักษณะอื่น เช่น ข้อบัญญัติท้องถิ่น
3.6 ลักษณะการบังคับใช้
- ควบคุม
- กำกับ / ติดตาม (ข้ามไปข้อ 3.8)
- ส่งเสริม
- ระบบผสม
เหตุใดจึงควรใช้ระบบดังกล่าว
3.7 ระบบอนุญาตในกฎหมาย
- เหตุใดจึงกำหนดให้ใช้ระบอนุญาต หรือใช้ระบบอื่นที่มีผลเป็นการควบคุม
- มีการกำนหดค่าธรรมเนียมการอนุญาติหรือไม่ มีความจำเป็นอย่างไร / คุ้มค่าต่อภาระที่เกิดแก่ประชาชนหรือไม่
- มีหลักเกญฑ์การใช้ดุลพินิจในการใช้อนุญาตหรือไม่
- มีการเปิดโอกาสให้อุทธรณ์การปฏิเสธคำขอ การให้ยื่นคำขอใหม่ หรือไม่อย่างไร
- มีการต่อายุการอนุญาตหรือไม่ / มีการตรวจสอบก่อนการต่ออนุญาตหรือไม่
3.8 การใช้ระบบคณะกรรมการในกฎหมาย
- กฎหมายที่ตราขึ้นมีการใช้ระบบคณะกรรมการหรือไม่ มีความจำเป็นอย่างไร
- คณะกรรมการที่กำหนดขึ้นมีอำนาจซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการอื่นหรือไม่ หากมีความซ้ำซ้อน จะดำเนินการอย่างไรกับคณะกรรมการอื่นนั้น
- องค์ประกอบของคณะกรรมการมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าส่วนราชการหรือไม่ / เหตุใดจึงต้องกำหนดให้บุคคลดังกล่าวเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการ
3.9 มีกรอบหรือแนวทางการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่หรือไม่
3.10 ประเภทของโทษที่กำหนด
- โทษทางอาญา
- โทษทางปกครอง
- ระบบผสม
3.11 การกำหนดโทษทางอาญาจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายสัมฤิทธิ์ผล เพราะเหตุใด
3.12 ความผิดที่กำหนดให้เป็นโทษทางอาญาเป็นความผิดที่ความร้ายแรงอย่างไร
4 ความซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น
- การดำเนินการตามภารกิจในเรื่องนี้มีกฎหมายอื่นในเรื่องเดียวกันหรือทำนองเดียวกันหรือไม่
- ในกรณีที่กฎหมายขึ้นใหม่ เหตุใดจึงยกเลิก แก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายในเรื่องเดียวกันหรือทำนองเดียวที่มีอยู่
5. ผลกระทบและความคุ้มค่า
5.1 ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบการบังคับใช้กฎหมาย
- ผู้มีหน้าที่ตามร่างกฎหมายหรือที่จะได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมายนั้นโดยตรง
- ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมาย
5.2 ผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่บุคคลดังกล่าว
- ด้านเศรษฐกิจ
– เชิงบวก(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงบวก)
– เชิงลบ(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบ)
- ด้านสังคม
– เชิงบวก(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงบวก)
– เชิงลบ(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบ)
- ด้านอื่นๆ
– เชิงบวก(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงบวก)
– เชิงลบ(ผู้ได้รับผลกระทบเชิงลบ)
5.3 สิทธิและเสรีภาพพของบุคคลในเรื่องใดบ้างที่ต้องถูกจำกัด / การจำกัดนั้นเป็นการจำกัดเท่าที่จำเป็นหรือไม่
5.4 ประโยชน์ที่ประชาชนและสังคัมจะได้รับ
- ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นในด้านใด หรืออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากน้อยเพียงใด
- เศรษฐกิจหรือสังคมมีพัฒนาอย่างยั่งยืนได้เพียงใด / การประกอบกิจการเป็นไปได้โดยสะดวก ลดต้นทุน ของผู้ประกอบการได้มากน้อยเพียงใด / ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ / ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนามากน้อยเพียงใด
- เสริมสร้างประสิทธิภาพหรือนวัตกรรมในการปฎิบัติราชการอย่างไร / สามารถลดงบประมาณแผ่นดินได้มากน้อยเพียงใด
- วิธีการและระยะเวลาประเมินผลสัมฤิทธิ์ ตลอดจนประโยชน์ที่ประชาชนและสังคมจะได้รับ
5.5 ความยุ่งยากที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากปฏิบัติตามกฎหมาย
5.6 ความคุ้มค่าของภารกิจเมื่อคำนึงถึงงบประมาณที่ต้องใช้ ภาระหน้าที่ที่เกิดขึ้นกับประชาชนและการที่ประชาชนจะต้องถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ
6. ความพร้อมของรัฐ
6.1 ความพร้อมของรัฐ
- กำลังคนที่คาดว่าต้องใช้
- คุณวุฒิและประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่จำเป็นต้องมี
- งบประมาณที่คาดว่าต้องใช้ในระยะ 5 ปีแรก ของการบังคับใช้กฎหมาย
6.2 ในกรณีที่เป็นร่างกฎหมายที่ผลต่อการจัดตั้งหน่วยงานหรืออัตรากำลัง มีความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกำนหดอัตรากำลังและงบประมาณหรือไม่
6.3 วิธีการที่จะให้ผู้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายมีความเข้าใจและพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย
- วิธีการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผู้อยู่ภายใต้กฎหมาย
- การเข้าถึงข้อมูลของประชาชน
7. หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้รักษาการตามกฎหมาย
- มีหน่วยงานปฏิบัติภารกิจซ้ำซ้อนหรือไม่
- มีผลกระทบต่อการปฎิบัติบัติงานของหน่วยงานอื่นหรือไม่
- มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น
- ผู้รักษาการตามกฎหมาย / การกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย
8. วิธีการทำงานและตรวจสอบ
8.1 ระบบการทำงานที่กำหนดสอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
- เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
- มีประสิทธฺภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
- ไม่ีมีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น
- มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์
- ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวก
- มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ
8.2 การเปิดเผยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
- ในกฎหมายกำหนดขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐเรื่องใดบ้าง / แต่ละขั้นตอนใช้เวลาดำเนินการใด
- หากมีการใช้ดุลพินิจ สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรม
- การพิจารณาของเจ้าหน้าที่ใช้หลักกระจายอำนาจ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
8.3 มีระบบตรวจสอบการคานอำนาจอย่างไร
- มีระบบตรวจสอบการปฏิบัติงานภายใน
- มีกระบวนการร้องเรียนจากบุคคลภายนอก
9. การจัดทำกฎหมายลำดับรอง
- ได้จัดทำแผน กรอบระยะเวลา สาระสำคัญของกฎหมายลำดับรอง / ได้ยกร่างกฎหมายลำดับรองเรื่องใดบ้าง
- มีกรอบในการตราอนุบัญญัติ เพื่อป้องกันการขยายอำนาจหน้าที่ของรัฐ หรือเพิ่มภาระแก่บุคคลเกินสมควร
10. มีการรับฟังความคิดเห็นหรือไม่
10.1 ผู้ที่เกี่ยวข้องหรืออาจได้รับผลกระทบที่รับฟังความคิดเห็น
- หน่วยงานภาครัฐ
- ภาคประชาชน / องค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง
10.2 เปิดเผยผลการรับความความเห็นต่อประชาชน
10.3 สรุปความคิดเห็นและเสนอประกอบการพิจารณาคณะรัฐมนตรี
- วิธีการรับฟังความคิดเห็น
- จำนวนครั้ง ระยะเวลา
- พื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็น
- ประเด็นที่มีการแสดงความคิดเห็น
- ข้อคัดค้านหรือความเห็นในแต่ละประเด็น
- คำชี้แจงเหตุลผลรายประเด็น นำเสนอผลการรับฟังประกอบการพิจารณาการจัดทำร่างกฎหมาย
หลักเกณฑ์การร่างกฎหมายและการตรวจพิจารณา ร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ

หลักเกณฑ์การร่างกฎหมายและการตรวจพิจารณา ร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ
1. ร่างกฎหมายต้องสอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งต่อ รธน. และ พ.ร.ป. ประกอบรัฐธรรมนูญ
- ไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ไม่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
- สอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งกับแนวนโยบายแห่งรัฐ
2. ร่างกฎหมายต้องสอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
3. การร่างกฎหมายต้องคานึงถึงหรือพิจารณาดาเนินการให้สอดคล้องกับหลักการและสาระสาคัญ ของ
- พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558
- พ.ร.ฎ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
- พ.ร.ฎ. การทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558
4. ร่างกฎหมายต้องสอดคล้องกับหลักการตาม ม. ๗๗ ของ รธน. โดยหน่วยงานของรัฐต้องตรวจสอบ ความจาเป็นในการตรากฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนี้
- จัดทำให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น
- ให้มีระบบอนุญาตเพียงเท่าที่จาเป็น กรณีจาเป็นต้องยึดหลักเกณฑ์ โดยระบุวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์และระยะเวลาการอนุญาตให้ชัดเจน
- ใช้ระบบ คกก. เพียงเท่าที่จำเป็น
- ต้องกาหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และระยะเวลาในการดาเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับหลักการสาคัญที่ รธน. รับรอง เปิดโอกาสให้ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบโต้แย้ง คัดค้านได้ และเผยแพร่หลักเกณฑ์ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป
แนวทางการรับฟังความคิดเห็นประกอบการจัดทาร่างกฎหมาย และการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย (RIA)

- การจัดทำร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ
- ร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของ สลค.
- ร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของ สคก.
- ร่างกฎหมายที่ผ่านการตรวจพิจารณา ของ สคก. และอยู่ระหว่าง การดำเนินการของ สลค.
แนวทางการรับฟังความคิดเห็นประกอบการจัดทำร่างกฎหมายและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย(RIA)
1. การจัดทำร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ

2.ร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของ สลค. และ สคก.

แนวนโยบายแห่งรัฐ ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
