Page 33 - รายงานประจำปี 2566 กพยช
P. 33
คณะกรรมการพััฒนาการบริหารงานยุุติิธรรมแห่งชาติิ 19
การประชุ่มปรึกษาห้ารือเพื�อห้าทางออกในการแก้ไขปัญห้า ห้รือแนวทางที�จำะทำาให้้ทร้พยุ์ที�ค้างขายุทอดีติลาดี
สามารถขายุไดี้ ซึ่ึ�งจำากการศึกษาเบื�องติ้นไดี้มีการกำาห้นดีติ้นแบบแนวทางการแก้ไขปัญห้า จำำานวน 4 ติ้นแบบ
ดี้งนี�
ติ้นแบบที� 1 การนำาทร้พยุ์ที�นายุประก้นนำามาวางเป็นห้ล้กประก้นที�ขายุทอดีติลาดีไม�ไดี้นำามาพ้ฒนา
ใช่้ประโยุช่น์
ติ้นแบบที� 2 การดีำาเนินโครงการนำาร�องการไกล�เกลี�ยุห้นี�สินเกษติรกรห้รือห้นี�สิน ที�เป็นที�ดีินที�สามารถ
พ้ฒนาเพื�อการเกษติรร�วมก้บสถาบ้นจำ้ดีการธนาคารที�ดีิน และสำาน้กงานปฏิรูปที�ดีินเพื�อเกษติรกรรม
ติ้นแบบที� 3 การดีำาเนินโครงการนำาร�องเรื�องการนำาห้้องชุ่ดีร้างห้รือห้้องชุ่ดีดี้อยุมูลค�ามาเข้าร�วม
โครงการบ้านม้�นคงเพื�อแก้ปัญห้าที�อยุู�อาศ้ยุให้้ก้บผู้มีรายุไดี้น้อยุร�วมก้บสถาบ้นพ้ฒนาองค์กรชุ่มช่น
ติ้นแบบที� 4 การนำาทร้พยุ์ที�อาจำสามารถนำามาพ้ฒนาให้้เกิดีมูลค�ามาใช่้ประโยุช่น์เพื�อใช่้ห้นี�
มติิที�ประชุ่ม เห้็นช่อบให้้ฝ่่ายุเลขานุการดีำาเนินการดี้งนี� 1) ศึกษาและข้บเคลื�อนแนวทางการแก้ไข
ปัญห้าทร้พยุ์ค้างการขายุทอดีติลาดี เพื�อส�งเสริมประสิทธิภาพการบ้งค้บคดีี และ 2) จำ้ดีทำาคำาส้�งและเสนอ
แติ�งติ้�งคณ์ะอนุกรรมการศึกษาและพ้ฒนาระบบการบ้งค้บคดีีเพื�อแก้ไขปัญห้าทร้พยุ์ค้างการขายุทอดีติลาดี
ติ�อประธาน กพยุช่. เพื�อลงนามในคำาส้�งติ�อไป
6. แนวที่างพัฒนาการรับรองเอกส่ารในประเที่ศไที่ยุ (โนติาร่ปับลิก)
แนวทางการพ้ฒนาการร้บรองเอกสาร ในประเทศไทยุห้รือโนติารีปับลิก ไดี้มีการศึกษาความเป็นมา
ในการจำ้ดีให้้มีระบบโนติารีปับลิก เพื�อให้้เป็นที�ยุอมร้บท้�งในประเทศและติ�างประเทศ โดียุเฉพาะการยุอมร้บ
ของศาล โดียุเมื�อมีการร้บรองเอกสารแล้ว ศาลจำะไดี้ไม�ติ้องไปดีำาเนินการติรวจำสอบ ห้รือไติ�สวนเพื�อให้้เห้็นถึง
ความน�าเช่ื�อถือ ที�ผ�านมาสภาทนายุความถือเป็นห้น�วยุงานที�มีความสำาค้ญในเรื�องนี�เนื�องจำากมีประสบการณ์์
เช่ี�ยุวช่าญในเรื�องของการร้บรองเอกสาร ท้�งนี� ฝ่่ายุเลขานุการไดี้เข้าห้ารือก้บนายุกสภาทนายุความในการ
ยุกระดี้บการร้บรองเอกสารในประเทศไทยุห้รือโนติารีปับลิก เพื�อจำะให้้เท�าเทียุบก้บระดี้บสากล ซึ่ึ�งนายุก
สภาทนายุความไดี้เห้็นว�าเป็นเรื�องที�ควรจำะดีำาเนินการร�วมก้นและพร้อมที�จำะให้้การสน้บสนุนโดียุจำะส�ง
บุคลากรผู้ทรงคุณ์วุฒิที�มีความรู้ความช่ำานาญมาร�วมเป็นคณ์ะอนุกรรมการฯ เพื�อที�จำะศึกษาในเรื�องดี้งกล�าว
ฝ่่ายุเลขานุการไดี้ดีำาเนินการศึกษาเบื�องติ้นในประเดี็นติ�าง ที�เกี�ยุวข้อง พบว�า
ประการแรก การที�โนติารีปับลิกจำะไดี้ร้บการยุอมร้บในระดี้บนานาช่าติิ ประเทศไทยุจำะติ้องมีกฎห้มายุ
รองร้บและเนื�อห้ากฎห้มายุสามารถเทียุบเคียุงก้บกฎห้มายุของติ�างประเทศในทางสากล
ประการที�สอง ระบบโนติารีปับลิกจำะติ้องมีห้น�วยุงานห้ล้กที�ร้บผิดีช่อบเรื�องโนติารีปับลิกที�มีรูปแบบ
การบริห้ารจำ้ดีการที�เป็นมาติรฐานเทียุบเคียุงก้บโนติารีปับลิกในระดี้บสากล
ประการที�สาม การมีระบบการประก้นความเสียุห้ายุ รวมถึงการเข้าสู�เป็นภาคีสมาช่ิกของสมาพ้นธ์
โนติารีปับลิก เป็นอีกเงื�อนไขห้นึ�งที�มีความสำาค้ญที�จำะทำาให้้ประเทศไทยุก้าวไปสู�ความสำาเร็จำ ในการยุกระดี้บ
โนติารีปับลิกในระดี้บสากล
แติ�อยุ�างไรก็ติาม ประเดี็นดี้งกล�าวข้างติ้นจำะติ้องผ�านกระบวนการศึกษาและการประสานความร�วมมือ
ท้�งภายุในประเทศและติ�างประเทศ เพื�อที�จำะเห้็นแนวทางของการข้บเคลื�อนโนติารีปับลิกในภาพรวมอยุ�างเป็น
รูปธรรม
12/3/2567 BE 16:59
_24-0269 P2.indd 19 12/3/2567 BE 16:59
_24-0269 P2.indd 19